คำตอบ: ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจคำว่า “สติ” เสียก่อน สติ แปลว่าความระลึกได้ หมายถึงระลึกได้ก่อนจะทำ จะพูดและสามารถจำสิ่งที่ทำ คำที่พูดแล้วได้อีกด้วย
เรามักใช้คำนี้คู่กับคำว่า สัมปชัญญะ แปลว่ารู้ตัว
หรือระลึกได้ชัดถึงการปฏิบัติและการพูดที่เหมาะสม
ทำให้จิตอยู่ในสภาพที่พร้อมจะทำงานได้อย่างดี
โดยทั่วไปคนเราแม้ยังไม่ได้ดื่มสุรา ก็เมาอยู่แล้ว คือ
๑. เมาอยู่ในความเป็นหนุ่มเป็นสาว คือคิดว่ายังมีเวลาสนุกอยู่อีกนาน
๒. เมาในความเป็นผู้ไม่มีโรค คือเผลอสติคิดว่าตัวเองจะเป็นคนที่แข็งแรงต่อไปอีกนาน หารู้ไม่ว่าโรคร้ายจะมาเยือนตัวเมื่อไรก็ได้
๓. เมาในชีวิต คือ เผลอสติคิดว่าความตายยังอยู่ห่างไกล
อีกนานกว่าความตายจะมาถึงตัว
หารู้ไม่ว่าความตายนั้นไม่มีเครื่องหมายอะไรบอกล่วงหน้า
ในทัศนะของพระอริยเจ้าทั้งหลาย พวกเราชาวโลกคือคนประมาทขาดสติแล้วทั้งสิ้น
ดังนั้นคนที่ดื่มเหล้าจึงล้วนแต่เพิ่มความขาดสติให้แก่ตนมากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นการดื่มเหล้ายังให้โทษอีกมากมายแก่ตนเองและคนรอบข้างอีกด้วย
คนส่วนมากเข้าใจว่า คนที่ดื่มเหล้าเมาจนเดินไม่ไหว หรือพูดไม่รู้เรื่องแล้ว คือคนขาดสติ
คนส่วนมากเข้าใจว่า คนที่ดื่มเหล้าเมาจนเดินไม่ไหว
หรือพูดไม่รู้เรื่องแล้ว คือคนขาดสติ แต่จริง ๆ แล้วในทางธรรม
ถือว่าเขาขาดสติแล้วตั้งแต่คิดจะดื่ม คิดจะซื้อ
ยิ่งลงมือเปิดขวดรินเหล้าใส่แก้ว แล้วดื่มล่วงลำคอเข้าไป
เขาก็ยิ่งขาดสติมากยิ่งขึ้นตามลำดับ
ยิ่งดื่มมาเท่าไร ความเป็นคนก็ค่อย ๆ ลดลงไปทุกที ๆ เมื่อความเป็นคนเหลือน้อย ความดีก็ลดลงตามลำดับ
เพราะฉะนั้นขึ้นชื่อว่าเหล้าแล้ว อย่าว่าแต่จะคิดซื้อมาดื่มเลย แม้แต่เอาขวดเหล้าเข้าบ้าน ก็ยังไม่ควร
โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)
เรียบเรียง จาก รายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น